วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
เพสที่ 3 ไม่เป็นปัญหาในมหาวิทยาลัย
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมเครือข่ายรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตนักศึกษา ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ว่า ที่ประชุมได้รายงานผลสำรวจจำนวนนิสิตนักศึกษาเพศที่ 3 ของแต่ละสถาบัน โดยมีมหาวิทยาลัยที่รายงานผลมา 61 แห่ง ปรากฏว่า มี 34 สถาบันไม่มีนักศึกษาที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนหรือมีจำนวนน้อย และไม่ได้มีปัญหา ส่วนที่เหลือ 27 สถาบัน มีนักศึกษาเพศที่ 3 รวม 2,847 คน แยกเป็นนักศึกษาที่แปลงเพศแล้ว 22 คน และมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ 2,825 คน และเมื่อแยกตามสถาบันพบว่ามหาวิทยาลัยรัฐเดิม มีนักศึกษาแปลงเพศแล้ว 4 คน เบี่ยงเบนทางเพศ 1,003 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏ แปลงเพศแล้ว 12 คน เบี่ยงเบนทางเพศ 814 คน มหาวิทยาลัยเอกชน แปลงเพศแล้ว 6 คน เบี่ยงเบนทางเพศ 564 คน ม.เทคโนโลยีราชมงคล เบี่ยงเบนทางเพศ 414 คน และวิทยาลัยชุมชน เบี่ยงเบนทางเพศ 30 คน ดร.สุเมธ กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลดังกล่าวถือว่าจำนวนเพศที่ 3 มีไม่มากนักและไม่เป็นปัญหาต่อการจัดการเรียนการสอน นอกจากนี้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ยังเสนอว่า สกอ.ควรอนุโลมให้แต่ละมหาวิทยาลัยดูแลกันเอง เพราะแต่ละสถาบันก็มีการบริหารจัดการที่แตกต่างกันไป อาทิ บางแห่งให้แต่งกายตามเพศที่เบี่ยงเบนได้ บางสถาบันก็จัดห้องน้ำสำหรับเพศที่ 3 ส่วนเรื่องของหอพักยังไม่มีการแบ่งแยกชัดเจน เพียงแต่มีการจัดโซนนิ่งหรือพื้นที่ให้กลุ่มเพศที่ 3 เป็นต้น ทั้งนี้ตนจะสรุปข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อ นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ ต่อไป “ที่ประชุมยังหารือเกี่ยวกับความปลอดภัยของนิสิตนักศึกษา เนื่องจากพบว่ามีนักศึกษาประสบอุบัติเหตุทางจราจรภายในมหาวิทยาลัยค่อนข้างมาก เช่น ม.ราชภัฏเชียงใหม่ ตั้งแต่เปิดภาคเรียนมีนักศึกษาประสบอุบัติเหตุภายในสถาบันเสียชีวิตถึง 3 คน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้ทุกมหาวิทยาลัยไปเข้มงวดนักศึกษาในการปฏิบัติตามกฎจราจร” ดร.สุเมธ กล่าว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น